Rolex Deepsea

ความเก่งกล้าภายใต้แรงกดดัน

Deepsea

Rolex Deepsea เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของมาตรฐานทางเทคนิคที่ได้รับการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอเมื่อทำการออกแบบนาฬิกาสำหรับมืออาชีพที่คิดค้นเพื่อการดำน้ำโดยเฉพาะ

วาล์วฮีเลียม

วาล์วคายฮีเลียม
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแรงดันน้ำ

เทคโนโลยีด้านความต้านทานขั้นสูง

ระบบ Ringlock
แปลงแรงดันให้เป็นประโยชน์

ขอบหน้าปัดแสดงเวลาและหน้าปัดโครมาไลท์
อ่านเวลาได้อย่างไร้ที่ติ

ขอบหน้าปัดแสดงเวลา

ลักษณะสำคัญของ Rolex Deepsea และนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำของ Rolex ทุกเรือน คือขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียวที่ติดตั้งมาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom แบบหล่อชิ้นเดียวที่มีเครื่องหมายขีดแบ่ง 60 นาที เครื่องมืออันสำคัญนี้ช่วยในการบอกเวลาด้วยความเที่ยงตรง

ขอบหน้าปัด Cerachrom ทำขึ้นมาจากเซรามิกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง โดยได้รับการผลิตและจดสิทธิบัตรโดย Rolex เป็นวัสดุที่แข็งเป็นพิเศษ ป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างแท้จริง และมีความคงทนของสี เครื่องหมายและตัวเลขที่เป็นแบบหล่อและแบบฝังจะได้รับการเคลือบด้วยโลหะมีค่าผ่านขั้นตอน PVD (กระบวนการเคลือบด้วยไอเชิงฟิสิกส์)

ขอบตัวเรือนยังสามารถหมุนปรับได้อย่างง่ายดายแม้ขณะสวมถุงมือด้วยขอบที่มีลักษณะเป็นสันที่มอบการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม

Chromalight

หน้าปัดโครมาไลท์มอบความสามารถในการอ่านเวลาได้อย่างสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ให้กับ Rolex Deepsea สารเรืองแสงจะเปล่งแสงสีขาวสว่างในแสงธรรมชาติตอนกลางวัน และเรืองแสงสีฟ้าเข้มเมื่ออยู่ในความมืด

หน้าปัดโครมาไลท์เปิดตัวในปี 2008 และมีเพียงที่ Rolex เท่านั้น ได้รับการพัฒนาถึงขีดสุดของความสามารถในปี 2021 โดยการเพิ่มสารชนิดใหม่ที่สามารถเปล่งแสงสีฟ้าได้อย่างยาวนานและชัดเจน ทั้งสีขาวยังสว่างขึ้นอีกระดับเมื่ออยู่ในเวลากลางวัน ประสิทธิภาพของสารเรืองแสงนี้ได้ผลักดันมาตรฐานการผลิตนาฬิกาให้หลุดออกจากขนบการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง

วัสดุเรืองแสงนี้ผลิตขึ้นผ่านกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน เริ่มจากการเผาผงอณูละเอียดที่ประกอบไปด้วยอะลูมิเนียม สตรอนเชียม ดิสโพรเซียม และยูโรเพียม ที่อุณหภูมิสูง ก่อนนำมาผสมเข้ากับเรซิ่นเหลว สารเรืองแสงนี้จะนำมาเคลือบหรือกรอกใส่เครื่องหมายบอกชั่วโมง เข็มนาฬิกา แคปซูล และขอบหน้าปัดด้วยมือ การปฏิบัติการในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้ความละเอียดขั้นสูง เพื่อบรรจุปริมาณของสารดังกล่าวให้สมบูรณ์แบบและตรงตามมาตรฐานความเป็นเลิศที่ Rolex กำหนดไว้

กลิ่นอายของ Rolex Deepsea
หน้าปัด D-blue

หน้าปัด D-blue
แสงแห่งมหาสมุทร

ชุดตัวล็อก Oysterlock และระบบขยายสาย Rolex Glidelock
คงความปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือในทุกสถานการณ์

องค์ความรู้ของ Rolex
สร้างสรรค์เพื่อนักดำน้ำ

Rolex Deepsea ออกแบบขึ้นเพื่อการดำน้ำขั้นสุด และติดตั้งมาพร้อมกับเม็ดมะยมไขลาน Triplock ที่เสริมคุณสมบัติการกันน้ำอย่างดีเยี่ยมให้กับตัวเรือน Oyster เม็ดมะยมที่ถูกยึดไว้ด้วยสกรูนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 1970 และประกอบด้วยซีลทั้งหมดสามส่วน

นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำของ Rolex ทุกเรือนจะประกอบไปด้วยชิ้นส่วน 10 ชิ้นที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่ได้รับการคัดสรรจากคุณสมบัติที่จำเป็น ได้แก่ โพลิเมอร์สำหรับซีลกันน้ำ Oystersteel โลหะมีค่า และไทเทเนียม RLX สำหรับชิ้นส่วนด้านกลไกและด้านความสวยงาม

เม็ดมะยม Triplock ได้รับการสกรูยึดติดเข้ากับตัวเรือนเพื่อการกันน้ำที่สมบูรณ์แบบ โดยเป็นที่จดจำได้จากสัญลักษณ์ทั้งสามภายใต้ตราสัญลักษณ์ Rolex ด้านหน้า

Oystersteel

Rolex Deepsea รังสรรค์ขึ้นจาก Oystersteel ซึ่งเป็นอัลลอยพิเศษที่อยู่ในตระกูลสตีล 904L และเป็นอัลลอยที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมยานอวกาศ และอุตสาหกรรมเคมี

ในปี 1985 Rolex ได้กลายเป็นแบรนด์แรกที่มีการผลิตนาฬิกาด้วยสตีล 904L แบบก้อน โดยใช้ในการผลิตตัวเรือน

Oystersteel นั้นมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนอย่างยิ่งยวด และยังมอบความสว่างเปล่งประกายอย่างมีเอกลักษณ์ให้กับ Rolex Deepsea ที่จะยังคงความสวยงามแม้นาฬิกาจะถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง

ทองคำ
Rolex Deepsea ยังมีรุ่นที่รังสรรค์จากทองคำ 18 กะรัตอีกด้วย ทองคำของ Rolex ทั้งทองคำ ทองคำขาว และ Everose gold 18 กะรัต ล้วนผลิตและหล่อขึ้นภายในโรงหล่อของ Rolex เอง อัลลอยมีค่าเหล่านี้ผลิตจากทองคำบริสุทธิ์ 750‰ โดยหลอมผสมกับเงิน ทองแดง หรือพาลาเดียม ดังนั้นจึงมีประกายเงางามอันโดดเด่นและมีคุณภาพระดับเหนือชั้น
คาลิเบอร์ 3235

คาลิเบอร์ 3235 ที่ทำงานให้กับ Rolex Deepsea นั้นเป็นกลไกการทำงานระบบขึ้นลานอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นโดย Rolex งานสถาปัตยกรรม การผลิต และนวัตกรรมของกลไกดังกล่าวทำให้นาฬิการุ่นนี้มีความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง

คาลิเบอร์ 3235 ผ่านการจดสิทธิบัตรถึง 14 ฉบับ เพียงแค่ช่วงเวลาเปิดตัวในปี 2015 เพียงปีเดียว มันเป็นกลไกการทำงานที่มาพร้อมแฮร์สปริง Parachrom และชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ซึ่งทั้งสองล้วนทนทานต่อสนามแม่เหล็กพลังสูง ทั้งยังมาพร้อมกับตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex ที่ทำหน้าที่ปกป้องออสซิลเลเตอร์จากแรงกระแทก

Rolex Deepsea ผ่านการรับรอง Superlative Chronometer ที่รับประกันประสิทธิภาพยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในด้านความเที่ยงตรง (-2/+2 วินาทีต่อวัน) และการเดินโดยไม่ต้องไขลาน (ประมาณ 70 ชั่วโมง)