Deepsea Challenge

นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำอันทรงประสิทธิภาพ

Deepsea Challenge

Deepsea Challenge พัฒนามาจากนาฬิการุ่นทดลองที่ James Cameron ใช้ในการดำดิ่งสู่ความลึก 10,908 เมตร (35,787 ฟุต) ใต้มหาสมุทรในวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 2012 Deepsea Challenge จึงเป็นผลผลิตจากความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำระดับโลกของ Rolex

ไทเทเนียม RLX

ไทเทเนียม RLX
เบาบางแต่ทานทน

Deepsea Challenge ผลิตขึ้นจากไทเทเนียม RLX พร้อมติดตั้งวาล์วคายฮีเลียมและระบบ Ringlock ในตัว และรองรับการสวมใส่เพื่อการดำน้ำในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ การดำน้ำแบบ submersible หรือในห้องปรับความดันบรรยากาศสูง

ระบบ Ringlock
การควบคุมแรงดัน

วาล์วคายฮีเลียม

วาล์วคายฮีเลียม
การจัดการกับแรงดัน

เม็ดมะยม Triplock

เม็ดมะยม Triplock
เพิ่มประสิทธิภาพในการกันน้ำ

รับประกันความปลอดภัย

สายนาฬิกาและระบบการขยายสาย
นวัตกรรมการขยายสาย Rolex Glidelock และปรับสายแบบ Fliplock นี้ใช้งานได้อย่างสะดวกจนแทบไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม สายนาฬิกา Oyster ของ Deepsea Challenge รังสรรค์ขึ้นจากไทเทเนียม RLX ตลอดสาย และมีทั้งระบบขยายสายแบบ Fliplock และระบบขยายสาย Rolex Glidelock การปรับสายทั้งสองแบบนี้ทำให้การสวมใส่นาฬิกากับชุดประดาน้ำที่มีความหนาถึง 7 มิลลิเมตรทำได้อย่างสะดวกสบาย
ขอบตัวเรือนแบบหมุนได้
ขอบตัวเรือน Deepsea Challenge แบบหมุนได้ทิศทางเดียวและมาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom ที่มีขั้นบอกเวลา 60 นาที ขอบหน้าปัดนี้ช่วยให้การอ่านเวลาขณะอยู่ใต้น้ำทำได้สะดวก สำหรับขอบตัวเรือนนั้นจะหมุนไปในทิศทางเดียวเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการหมุนโดยไม่ตั้งใจซึ่งอาจทำให้เวลาในการดำน้ำคลาดเคลื่อนได้ โดยทำจากเซรามิกสีดำที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงซึ่งผ่านการพัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย Rolex สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังคงสีสันที่งดงามตลอดเวลาและไม่เปลี่ยนสภาพแม้เผชิญกับแสงแดด
โครมาไลท์
หน้าปัด Chromalight ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Rolex และนำเสนออย่างเป็นทางการในปี 2008 ในการเปิดตัวของ Rolex Deepsea นั้นโดดเด่นด้วยสารเรืองแสงที่ได้นำมาใช้กับเข็มนาฬิกา มาร์คเกอร์ชั่วโมง และภายในแคปซูลบนขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ สารนี้ประกอบด้วยอะลูมิเนียม สตรอนเชียม ดิสโพรเซียม และยูโรเพียม ซึ่งได้มาจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและมีความละเอียดสูง โดยจะปล่อยแสงสีฟ้าที่มีลักษณะเฉพาะคือมีความสว่างเป็นพิเศษและเปล่งแสงออกมาได้อย่างยาวนาน ซึ่งนับว่าเป็นประสิทธิภาพที่เหนือกว่ามาตรฐานการผลิตนาฬิกาทั่วไปอย่างมาก
บรรยากาศของความท้าทายใต้ท้องทะเลลึก

คาลิเบอร์ 3230
การสำรองพลังงานที่ยาวนาน