ก้าวข้ามขีดจำกัด

จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย

ยกระดับพลังของกลไกเพื่อท้าทายกฎแห่งกาลเวลา ควบคุมความเสี่ยงเพื่อกำหนดวิถีที่ดีที่สุด และยืนหยัดเพื่อชัยชนะ


การแสวงหาความก้าวหน้าทางเทคนิคถือเป็นหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่าง Rolex และกีฬาแข่งรถ ความสัมพันธ์เหล่านี้ย้อนกลับไปถึงทศวรรษที่ 1930 เมื่อสถิติความเร็วทางภาคพื้นดินถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในปัจจุบัน Rolex ได้เป็นพันธมิตรหลักของการแข่งรถเอ็นดูรานซ์ชั้นนำหลายรายการ รวมถึงกิจกรรมสำคัญต่างๆ และนักแข่งที่น่าจดจำที่สุดของวงการมอเตอร์สปอร์ต

เครื่องยนต์เกือบจะเป็นทุกสิ่ง มันคือขุมพลัง ความมั่นคง และสมดุล ส่วนนักแข่ง แม้จะมีประสบการณ์และความกล้าหาญมาก แต่ก็ถือว่าเป็นเพียงปัจจัยรอง

Sir Malcolm Campbell
Sit Malcolm Campbell
Bluebird

จากสถิติที่เก่าแก่ที่สุด

ประวัติศาสตร์ที่มีร่วมกันระหว่าง Rolex และกีฬาแข่งรถเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1930 เมื่อ Sir Malcolm Campbell ได้สร้างสถิติโลกทางด้านความเร็ว พร้อมกับสวมนาฬิกา Oyster ที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมสุดโหด ทั้งแรงสั่นสะเทือน การเร่งความเร็ว และการชะลอความเร็วอันแสนรุนแรงของการแข่งรถ

กลไกแห่งความก้าวหน้า

เดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งที่ดียิ่งขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานควบคู่ไปกับการผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะให้ไปไกลยิ่งกว่าเดิม นี่คือความท้าทายครั้งสำคัญสำหรับทีมแข่งรถและผู้ผลิตในปัจจุบัน Rolex ยึดมั่นในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าเสมอมา และให้การสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้

Tom Kristensen

ชัยชนะจาก Le Mans จะอยู่ติดตัวคุณไปตลอดกาล ทุกครั้งที่ผมนึกถึงประวัติศาสตร์ของการแข่งนี้และความทุ่มเทที่ Rolex อุทิศให้กีฬาแข่งรถ ผมจะรู้สึกภูมิใจมาก แต่ก็รู้สึกด้วยว่าเป็นเกียรติที่สูงส่งเหลือเกิน

Tom Kristensen

สามมงกุฎแห่งกีฬาแข่งรถเอ็นดูรานซ์

การแข่งขันที่สร้างสรรค์ประวัติศาสตร์ให้กับวงการกีฬาแข่งรถ สนามแข่งที่ยังคงก่อร่างสร้างอนาคตของศาสตร์แห่งวินัยนี้ต่อไป ในโลกของการแข่งรถเอ็นดูรานซ์ คำว่า “สามมงกุฎ” นั้นหมายถึงการแข่งขันสามรายการที่สำคัญที่สุดในปฏิทินการแข่งรถ ซึ่ง Rolex ได้ให้การสนับสนุนในฐานะพันธมิตรหลักและเรือนเวลาอย่างเป็นทางการของทั้งสามรายการ ได้แก่ Rolex 24 At DAYTONA, 24 Hours of Le Mans และ 12 Hours of Sebring

24 Hours of Le Mans

การชนะการแข่งขันทั้งสามรายการนี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ Rolex 24 At DAYTONA จัดแข่งขันที่ Daytona International Speedway ซึ่งประกอบด้วยสนามซูเปอร์สปีดเวย์ (ความยาวกว่า 2.5 ไมล์หรือ 4 กิโลเมตร) ที่มีทางเลี้ยวแบบลาดชันและต้องใช้ความแม่นยำและสมาธิอย่างยิ่ง ส่วน 24 Hours of Le Mans นั้นเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งทั้งทางกายและจิตใจของนักแข่ง โดยมีเส้นทางที่ขึ้นชื่อว่ายากลำบากอย่างมากในยามค่ำคืน และ 12 Hours of Sebring มาพร้อมพื้นสนามที่ขรุขระ เพื่อทดสอบความทนทานของเครื่องยนต์อย่างแท้จริง

การเป็นพันธมิตรกับรายการแข่งรถเอ็นดูรานซ์ที่ท้าทายที่สุดเหล่านี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงสายสัมพันธ์ของ Rolex กับกีฬาแข่งรถที่มีความแน่นแฟ้นและยาวนานอย่างไม่เสื่อมคลาย

24 at DAYTONA
สนามแข่งเดย์โทนา อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์
Le Mans

ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำ

Rolex มีความร่วมมือกับการแข่งขันชั้นนำในวงการแข่งรถเอ็นดูรานซ์ โดยนับตั้งแต่ปี 2001 แบรนด์ได้ให้การสนับสนุน Automobile Club de l’Ouest (ACO) ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans และดูแล FIA World Endurance Championship (WEC) ซึ่งเป็นการแข่งขันรถสปอร์ตระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่ง Rolex ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับการแข่งขันนี้มานับตั้งแต่ปี 2016

ในปี 2025 Rolex ได้ดำรงฐานะเรือนเวลาอย่างเป็นทางการของ International Motor Sports Association (IMSA) และซีรีส์การแข่งรถ WeatherTech SportsCar Championship ที่จัดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ความร่วมมือเหล่านี้ได้สืบสานความสัมพันธ์อันยาวนานที่ย้อนไปตั้งแต่ปี 1959 ระหว่างทางแบรนด์กับสนามแข่งระดับตำนานอย่าง Daytona International Speedway ที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Rolex 24 At DAYTONA