Sky-Dweller

กลไกอันเรียบง่าย

Sky-Dwellers

ด้วยการระบุเวลาแบบสองเขตเวลาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับปฏิทินรายปี Saros และระบบ Ring Command ทำให้ Sky-Dweller เป็นมิตรร่วมทางอันล้ำค่าแสนสง่างามสำหรับผู้ที่เดินทางรอบโลกอยู่เสมอ

การแสดงผลเวลา 24 ชั่วโมง

การแสดงผลเวลา 24 ชั่วโมง
เขตเวลาที่สองที่มองเห็นได้ทันที

Sky-Dweller เรือนเวลาที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องโลก มาพร้อมการแสดงผลเวลาในเขตเวลาที่สองพร้อมๆ กันกับเวลาท้องถิ่น โดยจะบ่งบอกด้วยเข็มนาฬิกากลาง

ในส่วนของเขตเวลาที่สองหรือเวลาอ้างอิง จะบ่งบอกด้วยสามเหลี่ยมขนาดเล็กสีแดงที่มองเห็นได้ชัดเจนบนแผ่นวงแหวนแบบหมุนได้ที่มีขีดแบ่ง 24 ชั่วโมง นับว่าเป็นส่วนประกอบอันเป็นลักษณะเฉพาะของรุ่นนี้ แผ่นวงแหวนเยื้องศูนย์ทำให้ผู้สวมใส่สามารถแยกเวลาระหว่างกลางวันและกลางคืนได้อย่างชัดเจน ถือเป็นคุณสมบัติอันมีค่ายิ่งต่อผู้ที่เดินทางข้ามไปยังอีกฟากฝั่งของโลก

ปฏิทินรายปี Saros
กลไกแห่งนวัตกรรมสำหรับการแสดงผลอย่างเข้าใจง่ายในทันที

Rolex ได้พัฒนาปฏิทินรายปี Saros สิทธิบัตรนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ Sky-Dweller โดยถือเป็นกุญแจสำคัญที่แสดงอัตลักษณ์ของนาฬิการุ่นนี้

ปฏิทินประจำปีจะบอกความแตกต่างโดยอัตโนมัติระหว่างเดือนที่มี 30 วันและ 31 วัน โดยที่ผู้สวมใส่จะต้องปรับวันที่ด้วยมือเพียงหนึ่งครั้งต่อปีเท่านั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เปลี่ยนเป็นเดือนมีนาคม

ระบบอันชาญฉลาดอาศัยโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างยิ่งและหลักการแสดงผลแบบดั้งเดิมเพื่อจำลองการเกิดขึ้นของเดือนต่างๆ

การอ่านค่าเดือนปัจจุบันนั้นสามารถมองเห็นได้ในทันที โดยเดือนปัจจุบันจะบ่งชี้ด้วยสีแดงที่ปรากฏบนหนึ่งในหน้าต่างสิบสองช่องที่คั่นระหว่างเครื่องหมายบอกชั่วโมงรอบเส้นรอบวงของหน้าปัด เดือนมกราคมอยู่ที่ 1 นาฬิกา กุมภาพันธ์อยู่ที่ 2 นาฬิกา และต่อไปเรื่อยๆ

นวัตกรรมแห่งการผลิตนาฬิกานี้ประกอบด้วยอัตราทดสองชั้นและเฟืองเพียงสี่ตัวเท่านั้นที่ได้รับการเพิ่มเข้าไปในปฏิทินระบบตั้งวันที่แบบฉับพลันของ Rolex องค์ประกอบของโครงสร้างนี้ทำให้ปฏิทินรายปี Saros นั้นมีความน่าเชื่อถืออย่างสูงสุด

โดยระบบตั้งวันที่แบบฉับพลันนี้จะเปลี่ยนวันที่ทันทีในเวลาเที่ยงคืน โดยเชื่อมโยงกับเวลาท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ ส่วนแสดงวันที่ในช่องที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และเดือนปัจจุบันจะตอบสนองต่อตำแหน่งปัจจุบันของผู้สวมใส่เสมอ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบตัวเรือนของ Rolex
ความเรียบง่ายแห่งความซับซ้อน

ขอบหน้าปัดแบบร่องและระบบ Ring Command
มาพร้อมรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์และความง่ายในการใช้งาน

ขอบหน้าปัดแบบร่อง คือหนึ่งในองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของ Rolex ได้รับการประดิษฐ์อย่างพิเศษด้วยโลหะมีค่า เมื่อประกอบเข้ากับ Sky-Dweller แล้ว ความสวยงามนี้ยังมอบคุณสมบัติทางด้านฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมด้วยระบบ Ring Command

ระบบ Ring Command ที่พัฒนาขึ้นโดย Rolex และได้รับการจดสิทธิบัตรนี้ คือกลไกอันเต็มเปี่ยมด้วยนวัตกรรมที่ประกอบไปด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ เม็ดมะยมไขลาน และกลไกการทำงาน ระบบนี้จะทำให้ผู้สวมใส่สามารถเลือกใช้ฟังก์ชันต่างๆ ของ Sky-Dweller ได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย ด้วยการขยับหมุนเม็ดมะยมไขลาน

การออกแบบที่ทำให้ปรับตั้งได้อย่างง่ายดายเพียงแค่หมุนขอบหน้าปัดแบบร่องไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ทำให้ผู้สวมใส่สามารถเลือกตั้งค่าการแสดงผลต่างๆ ได้ตามต้องการ ร่องที่หนึ่ง: วันและเดือน ร่องที่สอง: เวลาท้องถิ่น ร่องที่สาม: เวลาอ้างอิง

ด้วยเหตุนี้ ผู้สวมใส่จึงสามารถปรับแต่งนาฬิกาได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับเม็ดมะยมในหลายตำแหน่ง หรือแม้แต่การใช้เครื่องมือปรับแต่ง ขอบหน้าปัดของระบบ Ring Command ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนอื่นๆ ของกลไก โดยไม่กระทบต่อความสามารถในการกันน้ำของตัวเรือน Oyster อันหรูหราและทนทาน ทั้งยังคงไว้ซึ่งการกันน้ำที่รับประกันในความลึกถึง 100 เมตร (330 ฟุต)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบตัวเรือนของ Rolex
Sky-Dweller
Sky-Dweller

คาลิเบอร์ 9002
รุ่มรวยด้วยความเชี่ยวชาญ

ในปี 2023 มีการเปิดตัวคาลิเบอร์ 9002 ที่ได้เข้ามาเสริมสมรรถภาพให้กับ Sky-Dweller ด้วยกลไกการทำงานของระบบขึ้นลานอัตโนมัติประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในด้านความเที่ยงตรง คุณสมบัติการเดินโดยไม่ต้องไขลาน พร้อมมอบการใช้งานอย่างสะดวกสบายและความน่าเชื่อถือ เป็นการพัฒนาที่ต่อยอดมาจากคาลิเบอร์ 9001 ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกการทำงานที่ซับซ้อนที่สุดที่ Rolex ได้ออกแบบมา โดยได้ใช้ประกอบเข้ากับรุ่นนี้นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2012

การพัฒนาทางเทคนิคใหม่ล่าสุดนั้นทำให้คาลิเบอร์ 9002 เป็นเสมือนตัวแทนของเทคโนโลยีอันยิ่งใหญ่ มันประกอบด้วยชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ที่ผ่านการจดสิทธิบัตร โดยเป็นการรวมเอาประสิทธิภาพด้านพลังงานขั้นสูงเข้ากับความต้านทานสนามแม่เหล็กแรงสูง ลูกเหวี่ยงของโรเตอร์ Perpetual ประกอบด้วยตลับลูกปืนเม็ดกลมที่ได้รับการปรับเพิ่มสมรรถนะ

คาลิเบอร์ 9002 มาพร้อมกับแฮร์สปริง Parachrom สีฟ้าที่ได้รับการพัฒนาโดย Rolex ด้วยวัสดุอัลลอยต้านสนามแม่เหล็ก จึงมอบคุณสมบัติคงความเสถียรอย่างดีเยี่ยมเมื่อต้องเผชิญภาวะการผันผวนของอุณหภูมิ

ออสซิลเลเตอร์จะทำงานร่วมกับตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex ประสิทธิภาพสูง ที่ได้รับการออกแบบและจดสิทธิบัตรโดยแบรนด์ ชิ้นส่วนทั้งสองช่วยเสริมให้กลไกการทำงานนั้นมีความทนทานสูงต่อแรงกระแทกที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่นาฬิกาอาจประสบระหว่างการสวมใส่

Oyster Perpetual Sky-Dweller ที่ได้รับการรับรอง Superlative Chronometer สามารถสำรองพลังงานได้ประมาณ 72 ชั่วโมง

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการทำงานของ Rolex
คาลิเบอร์ 9002

อัลลอยและหน้าปัด
ความทรงคุณค่าที่มาพร้อมรูปลักษณ์หลากหลาย

ทองคำ Rolex
ทองคำของ Rolex นั้นผูกพันแน่นแฟ้นกับ Sky-Dweller ทั้งทองคำ ทองคำขาว และ Everose gold 18 กะรัตล้วนผลิตและหล่อขึ้นภายในโรงหล่อของ Rolex เอง อัลลอยมีค่าเหล่านี้ผลิตจากทองคำบริสุทธิ์ 750‰ โดยหลอมผสมกับเงิน ทองแดง หรือพาลาเดียม ดังนั้นจึงมีประกายเงางามอันโดดเด่นและมีคุณภาพระดับเหนือชั้น
Sky-Dweller
คุณสมบัติของ Oystersteel ที่มีเฉพาะใน Rolex ยังเป็นประโยชน์ต่อ Sky-Dweller ในรุ่น White Rolesor และ Yellow Rolesor โดย Rolesor นั้นเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างแท้จริงนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1930 โดยเกิดจากการผสมกันของโลหะอย่างทองคำและสตีล ซึ่งจะหลอมรวมกันอย่างไร้ที่ติในสไตล์พา เดอ เดอซ์ อันเป็นการบรรจบกันของความประณีตงดงามและความแข็งแกร่ง
หน้าปัด
Sky-Dweller มอบอิสระในการแสดงออกถึงตัวตนของผู้สวมใส่ โดยนำเสนอตัวเลือกสีสันของหน้าปัดที่หลากหลาย สีดำสว่าง ฟ้าสว่าง หรือขาวเข้ม สีแชมเปญ ช็อกโกแลต หรือเทาอมน้ำเงิน และตัวเลือกอื่นๆ อย่างสีเขียวมิ้นต์ และสีฟ้า-เขียว ตัวเลือกสีสันอันหลากหลายนี้จะประกอบเข้ากับสายนาฬิกาที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างสรรค์นาฬิการุ่นนี้ในรูปแบบต่างๆ อย่างลงตัวไร้ที่ติ หน้าปัดทั้งหมดทำหน้าที่สำคัญในการบ่งบอกตัวตนและให้ความชัดเจนในการอ่านเวลาของนาฬิกา Rolex ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นการภายในเพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจสูงสุด ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์หน้าปัดนั้นเป็นการควบรวมกันระหว่างความเชี่ยวชาญแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีทางศิลปะล้ำสมัย อย่างการเคลือบเงาก็ทำให้สามารถสร้างสรรค์สีทึบแสงได้อีกเป็นจำนวนมาก และการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าก็ทำให้เกิดสีเมทัลลิคสีอ่อนและสร้างเฉดสีได้อย่างหลากหลาย และเทคนิค PVD (กระบวนการเคลือบด้วยไอเชิงฟิสิกส์) จะช่วยให้หน้าปัดเคลือบด้วยชั้นโลหะหรือออกไซด์ที่บางเฉียบได้
ความสมมาตรอันเที่ยงตรง

หน้าปัดโครมาไลท์
พลังแห่งสารเรืองแสงสีฟ้า

หน้าปัดโครมาไลท์ของ Sky-Dweller นั้นมอบความสะดวกสบายถึงขีดสุดในการอ่านเวลาไม่ว่าคุณภาพแสงในขณะนั้นจะเป็นแบบใด สารเรืองแสงที่ได้รับการเติมแต่งลงไปบนตัวเลข เครื่องหมายบอกชั่วโมง และเข็มนาฬิกานั้นจะเปล่งแสงสีขาวสว่างในแสงธรรมชาติตอนกลางวัน และเรืองแสงสีฟ้าเข้มเมื่ออยู่ในความมืด

หน้าปัดโครมาไลท์ที่มีเฉพาะที่ Rolex เท่านั้นและได้รับการเปิดตัวในปี 2008 ได้ผ่านการพัฒนาถึงขีดสุดในปี 2021 เป็นการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรืองแสงสีฟ้าได้อย่างยาวนานขึ้น ประสิทธิภาพของสารเรืองแสงนี้ได้ผลักดันมาตรฐานการผลิตนาฬิกาให้หลุดออกจากขนบการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง

ความเรียบง่ายอันแสนสบาย

สายนาฬิกา rolex
ความสบายครบวงจร

สายนาฬิกา Oyster
สายนาฬิกาโลหะที่พัฒนาขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1930 และเป็นสายนาฬิกาที่มีความเป็นสากลมากที่สุดในคอลเล็กชัน Oyster Perpetual มาพร้อมข้อสายนาฬิกาแบบสามชิ้นที่เรียงต่อกันเพื่อมอบความสบายยามสวมใส่ และให้ความทนทาน
สายนาฬิกา Jubilee
สายนาฬิกาโลหะ Jubilee ประกอบด้วยข้อสายนาฬิกาห้าชิ้น โดยมีสามชิ้นที่จะเล็กกว่าและอยู่ตรงกลาง ส่วนอีกสองชิ้นตรงด้านริมจะมีขนาดใหญ่กว่า สายนาฬิกาโดดเด่นด้วยการมอบประกายสะท้อน พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่ดูกลมกลืน และให้ความลื่นไหลบนข้อมือ ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป นาฬิกา Sky-Dweller รุ่นใหม่จะวางจำหน่ายพร้อมสายนาฬิกา Jubilee ที่ทำจากโลหะมีค่า เช่น เอเวอโรส 18 กะรัต หรือทองคำ
สาย Oysterflex
Sky-Dweller มีจำหน่ายพร้อมสาย Oysterflex ด้วยเช่นกัน สาย Oysterflex สิทธิบัตรที่พัฒนาโดย Rolex นี้มาพร้อมการผสมผสานคุณสมบัติของสายนาฬิกาโลหะที่มีความทนทานเข้ากับความสวมใส่สบายของสายอีลาสโตเมอร์ โดยมาพร้อมกับบานพับสายแบบโค้งมนและยืดหยุ่นสองชิ้น โดยติดตั้งด้านละหนึ่งชิ้น และหล่อทับด้วยอีลาสโตเมอร์สีดำประสิทธิภาพสูง สาย Oysterflex ยังมาพร้อมกับระบบหนุนรองตามแนวนอนด้านในเพื่อความสบายเหนือระดับ พร้อมด้วย Oysterclasp แบบพับได้ที่ช่วยป้องกันสายนาฬิกาเปิดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ยังสามารถปรับสายได้เองด้วยระบบขยายสาย Rolex Glidelock