GMT-Master II
ทั้งประสิทธิภาพการทำงานและชื่อรุ่นของ Oyster Perpetual GMT‑Master II ได้สร้างประวัติการณ์ของการเดินทางระยะไกลข้ามเขตเวลา
ขอบหน้าปัดได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อเติมเต็มระบบการทำงานอย่างสมบูรณ์ Rolex พัฒนาระบบขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ด้วยสปริงสามเหลี่ยมที่ช่วยให้ขอบหน้าปัดหมุนได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ทั้งสองทิศทาง และระบุตำแหน่งด้วยการกดในแต่ละตำแหน่งชั่วโมงที่แตกต่างกัน 24 ตำแหน่ง
ขอบหน้าปัดยังสามารถหมุนปรับได้อย่างง่ายดายด้วยร่องบนขอบที่มอบการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
ในปี 2022 Rolex ได้นำเสนอ GMT-Master II เวอร์ชันใหม่ที่เหนือความคาดหมาย โดยเม็ดมะยมไขลานและขอบป้องกันเม็ดมะยมจะอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเรือน ทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการทดสอบความเที่ยงตรงส ำหรับการควบคุมคุณภาพขั้นสุดท้ายเป็นบางส่วน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรับรอง Superlative Chronometer และช่องวันที่และเลนส์ Cyclops ได้เคลื่อนย้ายไปปรากฏอยู่บนตำแหน่ง 9 นาฬิกา รวมถึงมีขอบหน้าปัด Cerachrom จากเซรามิกในสองคู่สีอย่างสีเขียวและสีดำ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในรุ่นนี้ด้วย
GMT-Master II วางจำหน่ายในเวอร์ชันที่ทำจาก Oystersteel ทองคำขาว 18 กะรัตหรือ Everose gold รวมถึงเวอร์ชัน Everose Rolesor ด้วย
รุ่น Everose gold 18 กะรัต และ Everose Rolesor โดดเด่นด้วยขอบตัวเรือน Cerachrom จากเซรามิกสีดำและสีน้ำตาล บนหน้าปัดของรุ่นเหล่านี้มาพร้อมชื่อ “GMT-Master II” ที่ได้รับการตกแต่งด้วยผงสีชมพูกุหลาบ
รุ่นทองคำขาว 18 กะรัต มาพร้อมหน้าปัดเมทิโอไรต์ ในขณะที่รุ่นทองคำ 18 กะรัตและรุ่น Yellow Rolesor มาพร้อมขอบหน้าปัด Cerachrom จากเซรามิกสีเทาและสีดำ
GMT-Master II ประกอบด้วยคาลิเบอร์ 3285 กลไกการทำงานที่ช่วยให้นักเดินทางปรับเปลี่ยนเวลาท้องถิ่นได้อย่างง่ายดายด้วยการหมุนเม็ดมะยม โดยไม่ต้องหยุดการทำงานของนาฬิกาและไม่มีผลกระทบกับเข็มแสดงเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถอ่านเวลาท้องถิ่นและ เวลาของ “ถิ่นพำนัก” ได้ในเวลาเดียวกัน และการเปลี่ยนวันที่จะเชื่อมโยงกับเวลาในท้องถิ่น
