Explorer

คุณสมบัติที่จำเป็น

Explorer

Explorer เป็นหนึ่งในนาฬิกาสำหรับมืออาชีพเรือนแรกของ Rolex ความสะดวกสบายในการอ่านเวลา ความเที่ยงตรง และทนทาน ทั้งหมดล้วนเป็นคุณสมบัติที่ลงตัว ช่วยเป็นคู่หูร่วมเดินทางไปกับผู้ที่กล้าผลักดันขีดจำกัดของการสำรวจ

สายนาฬิกา Oyster
ตัวเรือน Oyster

ตัวเรือน Oyster
ผู้ปกปักษ์คุณสมบัติแห่งการกันน้ำ

Rolex เปิดตัวและจดสิทธิบัตรตัวเรือน Oyster ในปี 1926 ซึ่งเป็นก้าวย่างแห่งความสำเร็จอันสำคัญยิ่งต่อประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาในยุคสมัยใหม่ ตัวเรือนนี้ได้กลายเป็นตัวเรือนกันน้ำของนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก อันประกอบไปด้วยขอบหน้าปัดยึดด้วยสกรู ตัวเรือนด้านหลัง และเม็ดมะยมไขลานที่ยึดเข้ากับตัวเรือนตรงกลาง

Explorer มาพร้อมกับตัวเรือนตรงกลางจาก Oystersteel ที่ประดิษฐ์ขึ้นในห้องปฏิบัติการของ Rolex จึงมีคุณสมบัติการกันน้ำที่ระดับความลึก 100 เมตร (330 ฟุต) อ้างอิงจากการทดสอบอย่างเข้มงวดอันเป็นส่วนหนึ่งของการรับรอง Superlative Chronometer

ตัวเรือน Oyster เป็นสัญลักษณ์แห่งความทนทานและการกันน้ำ และยังมีความโดดเด่นจากความหรูหราของสัดส่วนตัวเรือน พร้อมมอบความสมดุลดั่งอุดมคติระหว่างความงดงามและฟังก์ชันการใช้งานจริง

ตัวเลข 3, 6, 9 และหน้าปัดโครมาไลท์
หน้าปัดอันเป็นเอกลักษณ์

สำหรับผู้ที่ต้องฝ่าฝันทุกสิ่งอย่าง การมีเครื่องมือที่สามารถอ่านค่าได้ทันทีนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง Explorer มอบคุณสมบัติความสะดวกสบายถึงขีดสุดในการอ่านเวลาในทุกๆ สถานการณ์ ด้วยความแตกต่างทางสีสันระหว่างหน้าปัดสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมตัวเลข 3, 6 และ 9 กับหน้าปัดโครมาไลท์

สารเรืองแสงที่ได้รับการเติมแต่งลงไปบนตัวเลข เครื่องหมายบอกชั่วโมง และเข็มนาฬิกานั้นจะเปล่งแสงสีขาวสว่างในแสงธรรมชาติตอนกลางวัน และเรืองแสงสีฟ้าเข้มเมื่ออยู่ในความมืด หน้าปัดโครมาไลท์เปิดตัวในปี 2008 ถูกออกแบบมาเฉพาะ Rolex เท่านั้น ก่อนจะมีการพัฒนาจนถึงขีดสุดของความสามารถในปี 2021 โดยเพิ่มสารชนิดใหม่ที่ทำให้แสงสีฟ้าเรืองแสงออกมาได้อย่างยาวนานและชัดเจนขึ้น ส่งผลให้สีขาวสว่างขึ้นอีกระดับเมื่ออยู่ในแสงสว่าง ประสิทธิภาพของสารเรืองแสงนี้ได้ผลักดันมาตรฐานการผลิตนาฬิกาให้หลุดออกจากขนบการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง

วัสดุนี้ผลิตขึ้นมาจากการเผาผงอณูละเอียดที่ประกอบไปด้วยเหล็กออกไซด์หลายประเภทที่ความร้อนสูงและนำมาผสมเข้ากับเรซิ่นเหลว จึงได้ออกมาเป็นผลลัพธ์แห่งกระบวนการผลิตอันซับซ้อน เข็มนาฬิกา ตัวเลข และเครื่องหมายบอกชั่วโมงจะได้รับการเคลือบหรือเติมสารนี้ด้วยมือ การปฏิบัติการในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้ความละเอียดขั้นสูง เพื่อบรรจุปริมาณของสารดังกล่าวให้สมบูรณ์แบบและตรงตามมาตรฐานความเป็นเลิศที่ Rolex กำหนดไว้

เม็ดมะยมไขลาน Twinlock

Oystersteel
อัลลอยพิเศษเฉพาะ

Explorer 36 และ Explorer 40 มีในรุ่นที่รังสรรค์จาก Oystersteel ซึ่งเป็นอัลลอยพิเศษเฉพาะที่อยู่ในตระกูลเดียวกับสตีล 904L และเป็นอัลลอยที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมยานอวกาศ และอุตสาหกรรมเคมี

ในปี 1985 Rolex ได้เป็นแบรนด์นาฬิกาแรกที่ใช้สตีล 904L แบบก้อนเพื่อผลิตตัวเรือน

Oystersteel มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนอย่างยิ่งยวด และยังมอบความสว่างเปล่งประกายอย่างมีเอกลักษณ์ ที่จะยังคงความสวยงามแม้นาฬิกาจะถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง

Yellow Rolesor
พันธมิตรทางเลือก

นับตั้งแต่ปี 2021 Explorer 36 มาพร้อมกับตัวเลือกในรุ่น Yellow Rolesor เป็นเวลาเกือบศตวรรษที่ Rolex ได้ผสานคุณสมบัติชั้นยอดของทองคำและสตีลเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นความงดงามประณีตที่ผสานมาพร้อมความทนทาน

Rolesor ได้รับการคิดค้นขึ้นมาในช่วงต้นทศวรรษ 1930 เพื่อนำมาใช้กับนาฬิกา Rolex คอลเล็กชัน Oyster Perpetual โดยเฉพาะ แนวคิดนั้นแสนเรียบง่าย กล่าวคือขอบตัวเรือน เม็ดมะยมไขลาน และข้อสายนาฬิกาตรงกลางของสายโลหะทำจากทองคำหรือ Everose gold ในขณะที่ตัวเรือนตรงกลางและข้อต่อสายนาฬิกาด้านนอกของสายโลหะทำจาก Oystersteel สำหรับในรุ่น white Rolesor มีเพียงขอบตัวเรือนเท่านั้นที่ทำจากทองคำขาว การผสมผสานที่ลงตัวเป็นหนึ่งเดียวนี้ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์

เม็ดมะยม Twinlock
ระบบกันน้ำสองชั้น

เม็ดมะยมไขลาน Twinlock ที่ได้รับการเปิดตัวในปี 1953 โดยเป็นองค์ประกอบที่ทำให้นาฬิกามีการกันน้ำถึงสองส่วน มันประกอบขึ้นมาจากชิ้นส่วนราว 10 ชิ้น และทำจากวัสดุที่ผ่านการคัดสรรอย่างละเอียดโดยประเมินจากคุณภาพภายในของวัสดุต่างๆ อาทิ สารโพลิเมอร์ที่ใช้ในการผลิตซีลกันน้ำ Oystersteel และทองคำ 18 กะรัต

เม็ดมะยมไขลาน Twinlock จะถูกยึดด้วยสกรูอย่างแน่นหนาเข้ากับตัวเรือน Oyster ซึ่งเม็ดมะยมไขลานนี้คือชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ระบบการกันน้ำของ Explorer สมบูรณ์แบบ และทนทานได้ถึงความลึก 100 เมตร (330 ฟุต)

บนนาฬิกาของ Rolex จะมีการระบุถึงระบบ Twinlock โดยการใช้จุดหนึ่งจุด หรือสองจุด หรือเส้นขีดบนหน้าเม็ดมะยมไขลาน ขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ละประเภท

เม็ดมะยมไขลาน Twinlock
Explorer

สายนาฬิกา Oyster และชุดตัวล็อก Oysterlock
สอดประสานอย่างลงตัวระหว่างรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งาน

สายนาฬิกา Oyster ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในช่วงท้ายปี 1930 โดยเป็นสายนาฬิกาโลหะรุ่นดั้งเดิมในคอลเลกชัน Oyster Perpetual ข้อสายนาฬิกาแบบข้อต่อสามที่เรียงกันนั้น มอบความสบายยามสวมใส่ ความสง่างาม รวมไปถึงความทนทาน

นาฬิกา Explorer ติดตั้งชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock แบบพับได้เพื่อป้องกันการเปิดออกโดยไม่ตั้งใจ

และสายนาฬิกา Oyster นี้ก็ได้ติดตั้งระบบขยายสายเร็ว Easylink เข้ากับชุดตัวล็อก ระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับขนาดสายโลหะได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับได้ถึงประมาณ 5 มม. เพียงการเปิดข้อสายนาฬิกาและพับปิดเข้าไปใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่ได้ในทันที

ชุดตัวล็อก Oysterlock

คาลิเบอร์ 3230
กลไกการทำงานสมรรถนะสูง

Explorer 36 และ Explorer 40 ติดตั้งพร้อมกับคาลิเบอร์ 3230 และได้รับการรับรอง Superlative Chronometer กลไกการทำงานของระบบขึ้นลานอัตโนมัติด้วยโรเตอร์ Perpetual นี้ผ่านการพัฒนาและผลิตโดย Rolex แต่เพียงผู้เดียว

คาลิเบอร์ 3230 ได้รับการเปิดตัวในปี 2020 โดยเป็นส่วนประกอบที่ทำงานร่วมกับแฮร์สปริง Parachrom สีฟ้า แฮร์สปริงนี้ทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็กแรงสูง และยังมีความเสถียรเป็นอย่างสูงเมื่อต้องเผชิญสภาวะความผันผวนของอุณหภูมิ กลไกการทำงานนี้ยังประกอบไปด้วยชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร โดยเป็นกลไกที่สร้างขึ้นมาจากอัลลอยนิกเกิล-ฟอสฟอรัสที่ทนทานต่อกระแสรบกวนจากสนามแม่เหล็ก

ออสซิลเลเตอร์ของกลไกการทำงานนี้มีจักรกรอกขนาดใหญ่ที่มีความเฉื่อยผันแปร สามารถปรับตั้งความเที่ยงตรงอย่างแม่นยำด้วยไขควงปรับน็อตปรับเวลาจากทองคำ และยึดเข้ากับตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex ประสิทธิภาพสูง

กลไกดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านเทคโนโลยีชั้นสูง และส่งผลให้คาลิเบอร์ 3230 ได้รับการจดสิทธิบัตรจำนวนหลายฉบับ มันรับประกันประสิทธิภาพขั้นสูงโดยเฉพาะในด้านความเที่ยงตรงแบบโครโนแมตริก (อัตราผันผวนที่ -2/+2 วินาทีต่อวัน) เช่นเดียวกับการเดินโดยไม่ต้องไขลาน (ประมาณ 70 ชั่วโมง) ความต้านทานต่อแรงกระแทก ความสะดวกสบายในการใช้งานและความน่าเชื่อถือ

คาลิเบอร์ 3230