Leonardo DiCaprio

Leonardo DiCaprio ได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในนักแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค ด้วยผลงานการแสดงที่ละเอียดซับซ้อน ตัวละครที่มีมิติ และความมุ่งมั่นที่เขามีให้กับการขัดเกลาฝีมือให้เป็นเอกลักษณ์

Leonardo DiCaprio

DiCaprio ได้รับการยกย่องถึงความสามารถในการแสดงที่ทรงพลัง นับตั้งแต่บทบาทบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ไปจนถึงตัวละครหลากมิติซับซ้อน เขายังเป็นที่รู้จักจากความสามารถในการปรับตัวเข้ากับบทบาทที่หลากหลายในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะประเภทดรามา ระทึกขวัญ ชีวประวัติ หรือตลกขบขัน เขาเปรียบได้กับผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเสนอความซับซ้อนของตัวละครและแก่นแท้ความรู้สึกของมนุษย์

คำกล่าวจาก Leonardo DiCaprio

ในฐานะนักแสดง คุณต้องผลักดันตัวเองให้ก้าวข้ามข้อจำกัด ความเจ็บปวดคงอยู่ชั่วคราว ทว่าภาพยนตร์คงอยู่นิรันดร์

Leonardo DiCaprio

DiCaprio เริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขาตั้งแต่วัยเด็ก และเขาได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างและได้รับการยกย่องถึงผลงานการแสดงที่ละเมียดละไมของเขาในภาพยนตร์เรื่องกิลเบิร์ต หัวใจไม่มีวันจบ (ปี 1993) เรื่องขอเพียงใครซักคนที่เข้าใจ (ปี 1993) และเรื่องโรมิโอ + จูเลียต (ปี 1996)

อาชีพของเขานั้นก้าวถึงจุดสูงสุดระดับโลกเมื่อเขามีอายุ 21 ปี ด้วยผลงานการแสดงภายใต้การกำกับของ James Cameron ผู้ดำรงฐานะ Rolex Testimonee กับภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลออสการ์® หลายรายการอย่างไททานิค (ปี 1997) ผลงานการแสดงของเขาได้จับใจผู้ชมหลายล้านคนทั่วโลกด้วยบทนำ Jack Dawson ตัวละครผู้เปี่ยมด้วยความรักที่โรแมนติก หลังจากนั้น DiCaprio ได้ร่วมแสดงผลงานในหลากหลายภาพยนตร์ที่น่าสนใจกับผู้กำกับ Martin Scorsese หนึ่งในผู้ดำรงฐานะ Rolex Testimonee ซึ่งเขาได้นำแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น บิน รัก บันลือโลก (ปี 2004) ภารกิจโหด แฝงตัวโค่นเจ้าพ่อ (ปี 2006) คนจะรวย ช่วยไม่ได้ (ปี 2013) และคิลเลอร์ส ออฟ เดอะ ฟลาวเวอร์ มูน (ปี 2023) เขายังร่วมสร้างผลงานกับผู้ผลิตภาพยนตร์ที่เปี่ยมวิสัยทัศน์ท่านอื่นๆ รวมไปถึง Christopher Nolan (จิตพิฆาตโลก ปี 2010) และ Quentin Tarantino (จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน ปี 2012 และกาลครั้งหนึ่งใน...ฮอลลีวู้ด ปี 2019) DiCaprio ได้รับการยกย่องถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการแสดงผลงานอย่างละเอียดลออ การแสดงของเขาได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เช่น รางวัลแบฟตา (BAFTA) รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลของสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (SAG Awards) ในปี 2016 เขาได้รับรางวัล Academy Award® ที่รอคอยมาอย่างยาวนานในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาท Alejandro González Iñárritu จากเรื่องต้องรอด (ปี 2015) กล่าวถึงเรื่องราวการต่อสู้เอาชีวิตรอด โดยขั้นตอนในการถ่ายทำที่เขาต้องเผชิญสภาวะหนาวอย่างสุดขั้วและสภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติเพื่อความสมจริงนั้น ทำให้เขาได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง

นอกเหนือไปจากผลงานกับวงการฮอลลีวูดแล้ว DiCaprio ยังเป็นนักกิจกรรมด้านสภาพภูมิอากาศ เขาสร้างความตระหนักให้กับสังคมในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เขาจัดตั้งมูลนิธิเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของเขาเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 24 ปี เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้จัดตั้งมูลนิธิ Re:wild ในปี 2021 ซึ่งมีเป้าหมายในการปกป้องป่าตามธรรมชาติแหล่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในโลก รวมไปถึงสร้างความตระหนักด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เขาได้จัดทำสารคดีหลายเรื่อง เช่น Before the Flood (ปี 2016) และ Ice on Fire (ปี 2019) ซึ่งเน้นย้ำถึงการจำเป็นในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน

Leonardo DiCaprio

DiCaprio ยังดำรงตำแหน่งผู้นำสันติภาพขององค์การสหประชาชาติ โดยได้ใช้โอกาสบนเวทีในการพูดถึงประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการประชุมระดับโลก และยังได้ให้การสนับสนุนโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั่วโลกด้วยตัวเอง ไม่ว่าในจอหรือนอกจอ ผลงานของ DiCaprio ล้วนมาจากความปรารถนาของเขาที่จะสร้างแรงบันดาลใจและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายกับโลกใบนี้ โดยเขาได้ดำรงฐานะ Rolex Testimonee ในปี 2025