US OPEN
บรรยากาศแห่งแสงไฟยามค่ำคืน

ที่อัฒจันทร์อันสูงใหญ่ของสนามกีฬา Arthur Ashe สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 23,700 คน ซึ่งเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในรายการแข่งเทนนิส Grand Slam® และเป็นสถานที่ “น่ายำเกรง” อย่างมากในระหว่างการแข่งขันนัดสำคัญ เพราะมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องไปทั่วทิศทาง นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันอีกหลายนัดที่จัดขึ้นในตอนเย็นท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวของฤดูร้อนในนิวยอร์ก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ US Open แตกต่างจากรายการอื่น และผู้แข่งขันต่างต้องการแรงเชียร์จากคนดูในสนาม พร้อมๆ กับการมีสมาธิอันแน่วแน่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์
สภาพแวดล้อมนี้แตกต่างกับบรรยากาศที่เงียบสงบกว่ามากของวิมเบิลดันที่จัดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อนหน้านั้น การแข่งขัน Grand Slam® รายการสุดท้ายของปีจึงมักมีผู้เล่นและผู้ชมรอคอยอย่างใจจดใจจ่อและสามารถดึงดูดผู้ชมอย่างล้นหลามในทุกปี

นับตั้งแต่ปี 2018 Rolex ได้รับเกียรติให้เป็นเรือนเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขัน US Open ซึ่งเป็นรายการแข่งขันที่สี่และรายการสุดท้ายในปฏิทินการแข่งขันของ Grand Slam^®

ตอนที่ Chris Evert เข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศของ US Open เธอมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น และสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันได้ถึง 6 ครั้ง โดยแบ่งเป็นรายการ Australian Open 2 ครั้ง, Roland-Garros 7 ครั้ง และ Wimbledon 3 ครั้ง
Chris Evert เป็นหนึ่งในผู้ชนะเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ในทุกพื้นผิวของสนาม Grand Slam®