Oyster Perpetual
ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นและสไตล์ที่แตกต่างทำให้ Oyster Perpetual Cosmograph Daytona กลายเป็นที่จดจำอย่างกว้างขวางไม่เฉพาะเพียงในสนามแข่งรถเท่านั้น
ในวาระครบรอบ 60 ปีของนาฬิการุ่นนี้ Rolex มุ่งมั่นที่จะสานต่อตำนานผ่านการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ด้วยเทคนิคที่มีความเที่ยงตรงสูง นับตั้งแต่ตัวเรือนและสายไปจนถึงกลไกการทำงาน การปรับเปลี่ยนและวิวัฒนาการมาหลายต่อหลายครั้งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทะยานสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันที่ไร้จุดสิ้นสุดด้วย
หน้าปัดได้รับการปรับขนาดและปรับแต่งเครื่องหมายบอกชั่วโมงและวงแหวนส่วนแสดงเวลาขนาดเล็ก การรวมกันอย่างเรียบง่ายของสีและการแต่งผิวนั้นช่วยขับให้ความแตกต่างระหว่างหน้าปัดและส่วนแสดงเวลาขนาดเล็ก และ/หรือวงแหวนเด่นชัดออกมา ทั้งยังมอบความงดงามอันกลมกลืน และเผยโฉมความทันสมัยให้กับ Cosmograph Daytona
เส้นแสงอันงดงามได้สะท้อนขึ้นจากด้านข้างของตัวเรือนตรงกลางที่ผ่านการออกแบบขึ้นใหม่ ส่วนรุ่นที่มีขอบตัวเรือน Cerachrom จากเซรามิก ขอบหน้าปัดจะเป็นวัสดุโลหะชนิดเดียวกับตัวเรือน
ในรุ่นของแพลทินัม 950 เป็นที่จดจำจากหน้าปัดสีไอซ์บลู ส่วนของลูกเหวี่ยงทำจากทองคำ 18 กะรัต และผู้สวมใส่สามารถมองเห็นได้ผ่านตัวเรือนด้านหลังแบบโปร่งใสที่รังสรรค์ขึ้นจากแซฟไฟร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้กับคอลเลกชัน Oyster Perpetual
แพลทินัมนับได้ว่าเป็นโลหะที่ทรงคุณค่ามากที่สุดด้วยความเปล่งปลั่งอันเป็นเอกลักษณ์ในตัวมันเอง โลหะมีค่าและหายากประเภทนี้เป็นหนึ่งในโลหะที่มีความแข็งแกร่งและใช้งานยากที่สุดประเภทหนึ่ง และเป็นที่รู้จักกันดีถึงความสามารถในด้านการทนทานต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี Rolex เลือกใช้เฉพาะแพลทินัม 950 ซึ่งเป็นอัลลอยอันประกอบด้วยแพลทินัม 950 ‰ และธาตุรูธีเนียมจำนวนหนึ่ง โดยทำขึ้นอย่างประณีตเป็นพิเศษเป็นการภายใน
นาฬิการุ่น Cosmograph Daytona มีการใช้กลไกแบบคาลิเบอร์ 4131 กลไกการทำงานโครโนกราฟใหม่นี้ เป็นการพัฒนาและผลิตขึ้นโดย Rolex ทั้งหมด ซึ่งเป็นวิวัฒนาการมาจากคาลิเบอร์ 4130 เปิดตัวในปี 2023 นี้ และมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่หลักๆ ที่ Rolex นำพามาสู่กลไกการทำงาน ประกอบไปด้วยชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ที่จะช่วยลดการสูญเสียพลังงาน นับเป็นหนึ่งจากข้อดีทั้งหลาย รวมไปถึง ตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex เพื่อปกป้องหัวใจสำคัญของกลไกการทำงาน และมีการเพิ่มสมรรถนะของตลับลูกปืนเม็ดกลมเพื่อสนับสนุนการทำงานของระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
คาลิเบอร์นี้มาพร้อมกับความสง่างามใหม่ๆ ของแบรนด์ ได้แก่ ลูกเหวี่ยงแ บบตัด และมีการตกแต่งสะพานจักรด้วย Rolex Côtes de Genève ซึ่งเป็นการดัดแปลงการแต่งผิวแบบดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของการผลิตนาฬิกาสวิส
Rolex พิสูจน์ให้เห็นถึงการแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่ลดละของตัวเองอีกครั้งผ่านการสร้างสรรค์ครั้งใหม่
