Oyster Perpetual GMT-Master ได้เปิดตัวในปี 1955 ในฐานะ “นาฬิกาที่เป็นเครื่องมือ” ตัวจริง และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคนิค
ปี 1955
![GMT-Master ปี 1955]()
การออกแบบสัญลักษณ์โดยใช้สีแดงและสีน้ำเงิน
สำหรับรุ่นดั้งเดิมของปี 1955 ขอบหน้าปัดแสดงเวลา 24 ชั่วโมงได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือส่วนที่เป็นสีแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนช่วงเวลากลางวัน และส่วนที่เป็นสีน้ำเงินเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนช่วงเวลากลางคืน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขอบหน้าปัดมีการผสมผสาน หลากหลายสีสันใหม่ๆ รวมถึงรุ่นสีเดียวด้วย โดยในยุคแรกเริ่มนั้นผลิตจาก Plexiglas ต่อมาในปี 1959 ได้รับการแทนที่ด้วยอะลูมิเนียมชุบผิว จากนั้นจึงปรับเป็นเซรามิกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงในปี 2005
![โฆษณาข้ามทวีป]()
ปี 1982
![GMT-Master II ปี 1982]()
เข็มแสดงชั่วโมงแบบอิสระ
บนนาฬิกา GMT-Master รุ่นดั้งเดิม เข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มแสดงเวลา 24 ชั่วโมงนั้นจะมีการส่งสัญญาณการทำงาน ต่อมาในปี 1982 Rolex ได้เปิดตัวกลไกการทำงานรุ่นใหม่ที่ช่วยให้เข็มชั่วโมงสามารถปรับตั้งได้อย่างอิสระจากเข็มแสดงเวลาอื่นๆ และเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการครั้งสำคัญแล ะหลีกเลี่ยงความสับสนระหว่างนาฬิกา GMT-Master รุ่นดั้งเดิมกับรุ่นใหม่ จึงมีการพัฒนาให้นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมภายใต้ชื่อ GMT-Master II นับจากนั้น ทั้งระบบการใช้งานและการตั้งค่านาฬิกาจึงได้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิมและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
![ขอบตัวเรือน Cerachrom]()
ปี 2005
![GMT-Master II ปี 2005]()
ขอบหน้าปัดเซรามิก
ในปี 2005 Rolex ได้แทนที่ขอบหน้าปัดอะลูมิเนียมด้วยการใช้เซรามิกแทน ในฐานะผู้นำด้านงานออกแบบและสร้างสรรค์ชิ้นส่วนเซรามิก แบรนด์ได้ทำการพัฒนาการผลิตขอบหน้าปัดแบบโมโนบล็อกและก้านสอดเซรามิกแบบโมโนบล็อกขึ้นเป็นการภายใน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดในการอ่านข้อมูลเว ลา นับตั้งแต่นั้นมาได้มีการสลักตัวเลขและเครื่องหมายอื่นๆ ลงในเซรามิกและเคลือบด้วยทองคำหรือแพลทินัมอย่างเบาบางผ่าน PVD (กระบวนการเคลือบด้วยไอเชิงฟิสิกส์)
ปี 2013
![GMT-Master II ปี 2013]()
ขอบหน้าปัดสองสี
ในปี 2013 Rolex ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการเปิดตัวขอบหน้าปัดเซรามิกสองสีแบบชิ้นเดียวเป็นครั้งแรกในรูปแบบ Oystersteel ของ GMT-Master II ซึ่งประกอบด้วยสีน้ำเงินและสีดำอย่างละครึ่ง และหนึ่งปีหลังจากนั้นได้เปิดตัวขอบหน้าปัดสองสีจากเซรามิกสีแดงและสีน้ำเงินบน GMT-Master II ที่ทำจากทองคำขาว 18 กะรั ต
ปี 2014
![GMT-Master II ปี 2014]()
ความสำเร็จทางเทคโนโลยี
ในปี 2014 Rolex ได้เปิดตัวขอบหน้าปัด Cerachrom สีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของ GMT-Master รุ่นดั้งเดิม บริษัทดำเนินงานวิจัยริเริ่มเพื่อพัฒนาเซรามิกสีแดงที่ให้ความสำคัญทั้งในเรื่องของความสวยงามและคุณภาพ จนในที่สุดก็ได้กรรมวิธีการผสมเซรามิกแบบใหม่
Rolex ค้นพบวิธีการ ปรับเปลี่ยนองค์ประกอบทางเคมีของลายเนื้อวัสดุแต่ละลายไปจนถึงส่วนแกนของเซรามิก รวมถึงการเปลี่ยนสีอีกครึ่งหนึ่งของขอบหน้าปัดจากสีแดงให้กลายเป็นสีน้ำเงิน ขณะเดียวกันก็ยังรับประกันความคมชัดระหว่างสองสี
![GMT-Master II ปี 2018]()
ปี 2018
![GMT-Master II ปี 2018]()
รูปแบบใหม่
ในปี 2018 Rolex ได้ขยายตระกูลนาฬิกา GMT-Master II ด้วยรูปแบบใหม่ที่ทำจาก Oystersteel ที่มาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom แสดงเวลา 24 ชั่วโมงจากเซรามิกสีแดงและสีน้ำเงิน ขานาฬิกาและตัวเรือน Oyster ด้านข้างได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมสายนาฬิกา Jubilee ที่ประกอบด้วยข้อต่อห้าชิ้น รวมถึงชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock และระบบขยายสายนาฬ ิกา Easylink
อีกสองเวอร์ชันของ GMT-Master II เปิดตัวด้วยรุ่นที่ทำจาก Everose gold 18 กะรัต ซึ่งเป็นครั้งแรกของนาฬิกาในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ โดยรุ่นแรกสร้างสรรค์จากอัลลอยชนิดพิเศษทั้งหมด และรุ่นที่สองมาในเวอร์ชัน Everose Rolesor ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง Oystersteel และ Everose gold
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับกลไกการทำงานรุ่นใหม่สำหรับ GMT-Master II อย่างคาลิเบอร์ 3285 ด้วย
ปี 2019
![GMT-Master II ปี 2019]()
เมทิโอไรต์จากนอกโลก
GMT-Master II ที่เปิดตัวในปี 2019 รังสรรค์จากทองคำขาว 18 กะรัตและโดดเด่นด้วยการประกอบเข้ากับหน้าปัดเมทิโอไรต์
ซึ่งหน้าปัดนี้สร้างสรรค์จากชิ้นส่วนอันหายากมากของอุกกาบาตโลหะที่เดินทางกว่าพันล้านกิโลเมตรในการข้ามผ่านระบบสุริยะมายังโลก ในระหว่างการ เดินทาง โลหะที่ผนวกอยู่ในอุกกาบาต โดยเฉพาะเหล็กและนิกเกิลจะค่อยๆ ตกผลึกและเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบต่างๆ ลวดลายธรรมชาติเหล่านี้สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะให้กับแต่ละหน้าปัดเมทิโอไรต์ของ Rolex
![GMT-Master II ปี 2022]()
ปี 2022
มุมมองใหม่
ในปี 2022 Rolex ได้เปิดตัว GMT-Master II รุ่นดั้งเดิมที่มีเม็ดมะยมอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเรือนและขอบหน้าปัดสีเขียวและสีดำ รุ่นใหม่ของนาฬิกาเรือนนี้สะท้อนความเป็น GMT-Master ที่รังสรรค์ขึ้นในปี 1955 พร้อมการมาถึงของเที่ยวบินพาณิชย์ มีการปรับเปลี่ยนโดยย้ายเม็ดมะยมไขลานมาอยู่ด้านซ้ายมือของตัวเรือนและช่องวันที่มาอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการตรวจวัดความเที่ยงตรงของนาฬิการะหว่างการทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายด้วย
![GMT-Master II ปี 2022]()
ปี 2023
เฉดสีใหม่
Rolex เปิดตัวกลุ่มนาฬิกา GMT-Master II ใหม่สองรุ่น โดยเป็นการนำนาฬิกาเวอร์ชันทองคำ 18 กะรัตกลับมาอีกครั้ง รุ่นแรกคือรุ่น Yellow Rolesor (ผสมผสานระหว่าง Oystersteel และทองคำ) ในขณะที่อีกรุ่นหนึ่งทำจากโลหะมีค่าชนิดเดียวตลอดตัวเรือน
ทั้งสองรุ่นมีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน ได้แก่ ขอบหน้าปัด Cerachrom แบบหล่อชิ้นเดียวสองสีพร้อนเครื่องหมายบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมงสีเทาเฉดใหม่ จับคู่กับเซรามิกสีดำ พร้อมสลักชื่อนาฬิกา GMT-Master II สีเหลืองบนหน้าปัด